ช่างภาพ candid wedding candid
ปัจจุบัน การถ่ายภาพสไตล์แคนดิด เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานแต่ง เพราะภาพจากกล้อง candid เป็นภาพที่ดูธรรมชาติกว่ากล้อง formal
กล้อง formal หรือที่เราเรียกว่าช่างภาพหลัก เป็นสิ่งที่ยังจำเป็นในทุกๆงาน เพราะ ช่างภาพหลักจะต้องเก็บทุกโมเมนท์ในงาน ซึ่งก็คือกล้องที่อยู่ตรงกลาง เก็บช่วงพิธีการทั้งหมด รวมถึงภาพ backdrop ซึ่งจะต่างจากช่างภาพ candid ที่ทำหน้าที่เก็บ detail
ในส่วนการทำงานของทีม Anuchart Photography เราถ่ายงานที่ 3. กล้อง
1 กล้องหลัก
2 กล้อง candid 1. ซึ่งผมจะทำหน้าที่ candid เองทุกงาน
3 กล้อง candid 2. จะทำหน้าที่เก็บภาพแขก และภาพครอบครัว แขกผู้ใหญ่ และ กลุ่มเพื่อนสนิท
การถ่าย 3 กล้อง จะครบทุกตำแหน่งในงาน โดยที่ลูกค้าไม่ต้องจ้างเพิ่ม
แต่เราจะมาพูดเรื่องงานถ่ายภาพ candid กัน ซึ่งผมจะทำหน้าที่ candid ทุกงาน ในส่วนของการทำงานของผม ภาพ candid ของผม จะหมายถึงภาพที่เก็บ moment ต่างๆ ที่สื่อให้เห็นถึงอารมณ์ของภาพ เช่น อารมณ์มีความสุข ดีใจ หัวเราะ ร้องไห้ ภาพ candid จะต้องสื่อภาพให้เห็นความรู้สึกนั้น ซึ่งถ้าใครที่ติดตามงานของผม จะสังเกตเห็นว่า งานของผม จะมีความละมุนอยู่ในภาพเสมอ และในอีกมุมมองนึง คือการหามุมถ่ายภาพที่แต่งต่าง ไม่ซ้ำกับกล้อง formal ซึ่งจะทำให้ได้มุมภาพที่แปลกตา เพราะภาพทุกภาพจะผ่านมุมมอง และ ความคิด โดยส่วนตัวผมทำงานด้านออกแบบ เป็น interior design เป็นอาชีพหลักอยู่แล้ว การถ่ายภาพ จึงเป็นเหมือนการ design อย่างนึง
หลายๆคนอาจจะมองว่างานถ่ายภาพ candid เป็นแค่การถ่ายภาพตอนเผลอ ซึ่งจริงๆก็ถูก แต่เราจะถ่ายตอนเผลอยังไง ให้สวย และสื่อความหมายได้ อันนั้นคือ งานที่ยาก เพราะช่างภาพ candid ต้องทำงานด้วยการหาจินตนาการตลอดเวลา ลูกค้าหลายๆคู่ เคยถามว่า ในงานไม่ค่อยเห็นพี่อ้นเลย พี่อ้นหายไปไหน นั่นเพราะตำแหน่ง candid จำเป็นต้องเดินหามุมตลอดเวลา เพราะให้ได้มุมที่ไม่ซ้ำ
ตัวอย่างงาน candid
candid ทุกอย่างที่มีความสำคัญกับงาน
งาน candid ที่เก็บความรู้สึก
งาน candid ที่หามุมมองที่แปลกตา
candid เก็ยโมเม้นท์
candid จังหวะสำคัญ
candid เพื่อเล่าเรื่องถึงสถานที่ เช่นภาพที่สื่อให้เห็นว่า โรงแรมอยู่ใกล้สนามบิน
candid เพื่อหามุมมองที่แตกต่างจากกล้องอื่นในงาน
candid เพื่อสื่อสารให้เห็นช่วงเวลา